Lerichcenter คลินิกเวชกรรม ศัลยกรรม ความงาม ครบวงจร

PRP Technique

หน้าแรก / PRP Technique

PRP Technique

PRP คืออะไร ?

Platelet Rich Plasma หรือ PRP คือ วิธีการฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้าด้วยการนำพลาสมาจากเลือดของคนไข้จากการปั่นแยกเลือดด้วยความเร็วสูงในระยะเวลาที่เหมาะสม แล้วคัดเฉพาะพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดและ Growth factor เข้มข้นออกมาฉีดกลับเข้าไปในผิวหนัง ซึ่งเลือดที่ได้จากการทำ PRP จะช่วยฟื้นฟูผิวอย่างปลอดภัย และยังสามารถทำควบคู่กับการบำรุงผิวหรือหัตถการอื่นๆ ได้อีกด้วย

PRP เหมาะกับใคร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

การทำ PRP หน้าใสจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายในเป็นหลัก เพื่อแก้ปัญหาผิวต่างๆ และมีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้อาการแพ้จากสารแปลกปลอม รวมถึงส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูผิวหน้าทั้งหมด ซึ่ง PRP นั้นมีส่วนช่วยในเรื่องการบำรุงผิวหน้าได้ในหลายๆ ด้าน รวมถึงการรักษาปัญหาผุ้ที่ผมบาง ผมร่วง หรือผมใกล้ล้าน

ก่อนทำ PRP ควรเตรียมตัวอย่างไร

  • ดื่มน้ำสะอาด ประมาณ 2 ลิตร อย่างน้อย 2-3 วันก่อนทำ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-3 วัน
  • งดชา เครื่องดื่มชูกำลัง และกาแฟ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ
  • งดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และงดของทอดของมันก่อนมาทำอย่างน้อย 1 วัน
  • งดรับประทานยาต้านการอักเสบและการแข็งตัวของเลือดในกลุ่ม ASA หรือยาในกลุ่ม NSAIDs ก่อนทำ 2-3 วัน
  • งดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ
  • ควรแจ้งโรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยาให้แพทย์ทราบด้วย

PRP รักษาผมบาง คืออะไร

การทำ PRP ผม หรือ PRP Hair Therapy คือ การปลูกผมในรูปแบบหนึ่ง โดยแพทย์จะฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) ของคนไข้เอง เข้าไปที่หนังศีรษะบริเวณที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน เพื่อไปให้สารใน PRP เข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ทำให้ผมที่งอกออกมาใหม่ มีขนาดเส้นผมที่หนามากขึ้นและแข็งแรงมากขึ้น

การทำ PRP ผม เหมาะกับใครบ้าง

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้านด้วยการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE และ ปลูกด้วยเทคนิค FUT ได้ การฉีด PRP ผมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้อาการผมร่วงผมบางได้ดี และการฉีด PRP ยังเหมาะกับคนที่กังวลเรื่องการผ่าตัด กลัวเจ็บ ไม่อยากดมยาสลบ หรือ กังวลเรื่องแผลเป็นหลังผ่าตัด รวมไปถึงคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัด จะค่อนข้างเหมาะกับการทำ PRP ผม มากกว่าการผ่าตัดปลูกผมแบบอื่นๆ

ทั้งนี้การทำ PRP ผม จำเป็นต้องตรวจสภาพเซลล์รากผมและหนังศีรษะก่อน ว่าเซลล์รากผมยังสามารถกลับมาทำงานได้ปกติ เพื่องอกเส้นผมใหม่ได้หรือไม่ หรือ เซลล์รากผมเสื่อมสภาพไปแล้ว

ในกรณีที่เซลล์รากผมยังสามารถงอกเส้นผมใหม่ได้ แพทย์มักจะแนะนำให้ทำ PRP ผมก่อน แต่ถ้าหากเซลล์รากผมเสื่อมสภาพหมดแล้ว ไม่สามารถงอกผมได้ใหม่ แพทย์อาจจะแนะนำการผ่าตัด ปลูกผม FUE หรือ ปลูกผม FUT แทน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากกว่า

thThai